6 อาหารบำรุงกระดูก ป้องกันข้อเข่าเสื่อมได้

เมื่ออายุมากขึ้นกระดูกก็เริ่มเสื่อม ทำให้มีปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน หรือกระดูกเปราะบางแตกหักง่าย ดังนั้นจึงควรดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีอยู่เสมอ ด้วยการทานอาหารที่จะช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง โดยเราก็มี 6 อาหารบำรุงกระดูกมาแนะนำกันดังนี้

1.นม

นมเป็นอาหารที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูกได้ดีมาก เพราะอุดมไปด้วยแคลเซียมสูงและแร่ธาตุที่สำคัญต่อกระดูกอีกมากมาย จึงป้องกันปัญหาข้อเข่าเสื่อมได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงควรดื่มนมเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 1 แก้ว แต่ควรเลือกดื่มนมรสจืดจะดีต่อสุขภาพมากที่สุด

2.ถั่วอัลมอนด์

ถั่วอัลมอนด์มีส่วนช่วยในการเพิ่มมวลกระดูก จึงทำให้กระดูกมีความแข็งแรงไม่เปราะบางได้ง่าย ทั้งยังเหมาะที่จะนำมาทานเป็นของทานเล่นระหว่างมื้อมากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังนั่งเล่นเกมส์เพลิน ๆ หรือแทงบอลออนไลน์บนเว็บไซต์ VWIN ที่สำคัญไม่ทำให้อ้วนอีกด้วย

3.โยเกิร์ต

โยเกิร์ตนอกจากจะช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายแล้ว ยังมีแคลเซียมและโพแทสเซียมที่จำเป็นต่อกระดูก โดยจะช่วยบำรุงและซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอ พร้อมทั้งลดการสูญเสียมวลกระดูกให้น้อยลง จึงเป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่ควรทานเพื่อให้กระดูกมีความแข็งแรงไม่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อมนั่นเอง

4.กล้วย

กล้วย ผลไม้ที่หาทานได้ง่ายและมากไปด้วยประโยชน์ ก็ถูกจัดเป็นหนึ่งในอาหารบำรุงกระดูกที่จะมองข้ามไม่ได้เลย เนื่องจากในกล้วยมีแคลเซียมและแร่ธาตุ วิตามิน ที่มีส่วนช่วยในการควบคุมการเจริญเติบโตของโครงสร้างกระดูก และชะลอการเสื่อมของกระดูกได้เป็นอย่างดี คนที่ทานกล้วยบ่อย ๆ จึงมักจะไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกมากนัก

5.ถั่วงอก

รู้ไหมถั่วงอกก็เป็นอาหารที่จำเป็นต่อกระดูกเช่นกัน เพราะมีแร่ธาตุแมงกานีสและฟอสฟอรัสที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันข้อเข่าเสื่อม และลดความเสี่ยงสารพัดโรคที่เกี่ยวกับกระดูก แต่การจะทานถั่วงอกนั้นก็ต้องเลือกให้ดีด้วย เพราะบางแห่งอาจมีการใช้สารฟอกขาวในถั่วงอก ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก

6.ไข่

ไข่ก็มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกเช่นกัน โดยเป็นอาหารสำคัญที่จะช่วยปกป้องคุณจากอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับกระดูกได้ ซึ่งไข่ก็สามารถนำมาทำได้หลากหลายเมนูอย่างไม่มีเบื่อกันเลย แต่ขอแนะนำให้เลือกทำเมนูที่ไม่ใช้น้ำมันจะดีที่สุด จะได้ไม่เสี่ยงอ้วนนั่นเอง และที่สำคัญควรกินไข่แค่วันละ 1-2 ฟองเท่านั้น

อยากมีกระดูกแข็งแรง ไม่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อมหรือกระดูกพรุนมากวนใจ ก็ต้องกินอาหารบำรุงกระดูกเหล่านี้กันเลย แล้วจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูกของคุณได้ดีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะวัยสูงอายุด้วยแล้วอาหารเหล่านี้ก็มีความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากจะช่วยบำรุงกระดูกแล้วก็ยังบำรุงสุขภาพร่างกายในด้านอื่น ๆ อีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ควรทานในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อไม่ให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพแทนนั่นเอง

จริงหรือ อาหารคลีน ช่วยลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพของคุณได้ดีเยี่ยม

เราจะเห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น ทั้งหญิงและชาย ในเรื่องอาหารการกิน และการออกกำลังกาย ซึ่งในตอนนี้เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพหรือเรียกอีกอย่างว่าอาหารคลีน กำลังได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับหนุ่มสาวยุคใหม่ ไม่เว้นแต่ผู้สูงวัย ซึ่งหลายคนอาจจะรู้จักอาหารคลีนกันบ้างแล้วว่ามันคืออะไรและช่วยเรื่องรูปร่างให้ดูได้สัดส่วนกระชับ รวมถึงการลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพ ผิวพรรณที่ดูสดใสอ่อนเยาว์ ทั้งหมดนี้เป็นผลลัพธ์ที่ได้จากการกินอาหารคลีน และสำหรับใครที่ยังไม่รู้จักว่าการกินคลีน หรืออาหารคลีนนั้นคืออะไร ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะวันนี้เรามีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับอาหารคลีนว่ามันเป็นลักษณะไหน และมีคุณประโยชน์มากมายอย่างไร รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการกินคลีนนั้นสุดยอดแค่ไหน ไปดูกันเลยดีกว่า

มาทำความรู้จักกัน อาหารคลีนคืออะไร

อาหารคลีนคืออาหารที่ทำขึ้นเพื่อเน้นการดูแลสุขภาพ ปราศจากการปรุงแต่ง สี กลิ่น รส หรือปรุงแต่งน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เป็นอาหารที่รสอ่อน ๆ หรือ กลาง ๆ รสไม่จัด ส่วนมากใช้การปิ้ง ย่าง นึ่ง แทนการทอดหรือผัดที่ต้องใช้น้ำมัน หรือถ้าจำเป็นต้องใช้น้ำมัน ก็จะเลือกน้ำมันที่เป็นกรดไขมันอิ่มตัวในการปรุงอาหาร เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันคาโลน่า เป็นต้น นอกจากนี้อาจใช้ซีอิ๊วขาวที่ทำจากถั่วเหลืองรสอ่อน ๆ แทนน้ำปลาที่มีรสเค็มมาก หรืออาจใช้น้ำผึ้งให้ความหวานเบา ๆ แทนน้ำตาล ใช้ขนมปังโฮลวีต แทนขนมปังขาว ใช้ข้าวกล้องแทนข้าวขัดสี หรือเป็นเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน อย่างอกไก่ เนื้อปลาต่าง ๆ ไข่ต้ม นมพร่องมันเนย ธัญพืช ถั่วต่าง ๆ รวมถึงผักผลไม้หลากสีหลากชนิด เป็นต้น

ประโยชน์มากมายจากการกินอาหารคลีน

แน่นอนประโยชน์และผลลัพธ์ที่ได้อันดับแรกเลย คือ การมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง มีภูมิคุ้มกันโรคที่ดี ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ ผิวพรรณดูสดใสมีน้ำมีนวลขึ้น รูปร่างเฟิร์มกระชับและได้สัดส่วนสวยงาม น้ำหนักตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ช่วยให้มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น และร่างกายดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ไปใช้ได้เต็มที่

การกินคลีนที่ถูกต้อง

อาหารคลีนเป็นอาหารที่ย่อยง่ายและมีประโยชน์ กระเพราะอาหารและตับไตจึงไม่ต้องทำงานหนัก ขณะเดียวกันเราก็อาจหิวเร็วขึ้น ซึ่งเราอาจแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อย่อยจาก มื้อเช้า กลางวัน เย็น เพิ่มเป็น 4-6 มื้อย่อยก็ได้ และไม่ควรอดอาหาร หรือมื้อหนักใน 3 มื้อนี้เด็ดขาด ขณะเดียวกันคลีนที่แท้จริงจะต้องมีรสชาติอ่อน ๆ และเป็นอาหารที่มีส่วนผสมของแป้ง น้ำตาลน้อยที่สุด ควรทานอาหารคลีนหลากหลายให้ครบ  5 หมู่ในแต่ละมื้อ

เห็นไหมว่าการกินคลีนมันสุดยอดแค่ไหน ดังนั้นอย่ารอช้า เราควรเริ่มหันมามีวินัยกับการกินคลีนอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้เราก็จะเป็นเจ้าของหุ่นสวย ฟิตเฟิร์ม สุขภาพแข็งแรงกันได้ในระยะเวลาสั้น ๆ นั่นเอง

อาหารคือการสื่อสารทางวัฒนธรรม

                อาหารไทยนั้นเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เพราะนอกจากจะมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมแล้ว หน้าตายังน่ารับประทานอีกด้วย ดังที่มีคำกล่าวว่า “รูปสวยรวยรส” ก็น่าจะไม่เกินความจริง แต่การเผยแพร่อาหารไทยไปทั่วโลกนั้นนอกจากจะเป็นการประกาศให้ทั่วโลกทราบว่าคนไทยมีฝีมือในการทำอาหารแล้ว ยังเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมผ่านทางอาหารอีกด้วย ว่าประเทศเรานั้นมีศิลปวัฒนธรรมที่งดงามและยาวนาน แม้แต่ในอาหารยังมีความประณีตทั้งในการปรุงรสและกระแกะสลักตกแต่งให้หน้าตาของอาหารให้ดูน่ารับประทานอีกด้วย

วัฒนธรรมที่ส่งผ่านอาหารเลิศรส

อาหารไทยเป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่านอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้ว ยังมีกลิ่นที่เชิญชวนให้รับประทานและมีหน้าตาและสีสันสวยงาม อีกทั้งยังมีหลายชนิด แม้แต่การประกอบอาหารก็ยังมีการประดิดประดอยเพื่อเสริมรสชาติทั้งยังเป็นอาหารตาอีกด้วย การประดิษฐ์อาหารให้มีความสวยงามนั้นแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของชาวไทยว่ามีชีวิตความเป็นอยู่กันอย่างไร ทำให้ทั่วโลกทราบว่าข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย และข้าวไทยนั้นอร่อยที่สุด ทำให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ว่าคนไทยนั้นเป็นคนช่างคิด ช่างทำ มีความอดทนมีฝีมือประณีต มีความคิดสร้างสรรค์ อาหารสำรับไทยโบราณนั้นไม่เป็นแค่อาหารจานเดียว แต่จะจัดมาเป็นสำรับ ในหนึ่งสำรับนั้นจะมีกับข้าวที่มีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป แต่เมื่อทานด้วยกันแล้วสามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี นั่นแสดงให้เห็นว่าคนไทยมีวัฒนธรรมการกินที่ละเอียดอ่อน ต้องกินครบรสและแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมอันยาวนานผ่านทางการแกะสลักผักและผลไม้อีกด้วย

เราต้องยอมรับว่าอาหารไทยไม่ได้เป็นแต่เพียงอาหาร แต่ยังนับเป็นงานศิลปะอีกด้วย เพราะนอกจากจะมีการปรุงรสให้กลมกล่อมแล้ว ในการตกแต่งจานก็ยังต้องทำให้สวยงามน่ารับประทาน แต่ถึงแม้ว่าอาหารไทยจะเป็นที่นิยมไปทั่วโลก แต่วัยรุ่นไทยเองกลับสนใจอาหารตะวันตก อาหารต่างชาติมากกว่า จะเห็นได้ว่าอาหารชาติอื่น ๆ เข้ามาได้รับความนิยมจากวัยรุ่นไทยเป็นจำนวนมาก เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่อาหารไทยดั่งเดิมกำลังเลือนหายไปตามกาลเวลาเพราะไม่มีใครทำเป็น อาจจะเป็นเพราะมีกรรมวิธีการทำที่ต้องอาศัยความชำนาญ การฝึกฝน และต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมากจึงทำให้น้อยคนจะทำเป็น อาหารไทยโบราณบางชนิดแม้แต่คนไทยเองก็ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าวิถีชีวิตของคนไทยจะเปลี่ยนไป แต่ก็อยากให้คนไทยกลับมาสนใจที่จะอนุรักษ์ อาหารไทย ขนมไทยให้คงอยู่ เพื่อแสดงให้ลูกหลานเห็นถึงวัฒนธรรมที่ยาวนานของเรา อยากให้วัยรุ่นไทยมีความรู้สึกรักและหวงแหนในวัฒนธรรมประเพณีของเรา มันคงจะดีไม่ใช่น้อยถ้าหากเด็กรุ่นใหม่ทำอาหารไทยเป็น และกลับมาสืบทอดสูตรอาหารไทยโบราณกันอีกครั้ง เพื่อให้ขาวโลกรู้ว่าเราไม่ได้ลืมรากเหง้าของตัวเอง ไม่ได้ไหลไปกับกระแสตะวันตก

สุดยอดโสมไทย “กระชายเหลือง” หาง่าย ราคาถูก สรรพคุณเทียบโสมเกาหลี

อย่างที่รู้กันว่า โสมเกาหลี นั้นมีสรรพคุณมากมายในการรักษาโรค บำรุงร่างกายให้แข็งแรง เหมาะกับผู้ป่วย ผู้สูงวัย และผู้ที่ต้องการดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ซึ่งกลุ่มคนที่รับประทานโสมเกาหลีนี้ ต้องค่อนข้างมีฐานะที่ดี เนื่องจากราคาที่สูงมากเป็นหลักหมื่นเลยทีเดียว ซึ่งลำพังคนจนหรือคนรากหญ้า คงยากที่จะดูแลบำรุงร่างกายตัวเองด้วยโสมเกาหลีได้ พูดง่ายๆว่ามันคือสมุนไพรนอกสำหรับคนรวยนั่นเอง แต่โลกไม่เคยลำเอียง ย่อมสร้างสิ่งที่ดีที่สุด และคู่ควรให้กับมนุษย์เสมอ อย่างกระชายเหลือง ซึ่งมีสรรพคุณในการต้านโรค บำรุงร่างกาย ไม่แพ้กับโสมเกาหลี ที่สำคัญมันราคาถูก และหาได้ง่ายในประเทศไทย เหมาะกับกลุ่มคนหลากหลาย ทุกเพศทุกวัย ทุกชนชั้น ไม่จำกัดฐานะ ซึ่งในวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกระชายเหลือง สุดยอดสมุนไพรไทยที่ไม่น้อยหน้าประเทศไหนๆ พร้อมสรรพคุณอันมากมายที่คุณจะต้องทึ่งอย่างแน่นอน มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

มารู้จักกระชายเหลือง สุดยอดสมุนไพรกัน

ก่อนอื่นเราจะพาคุณไปรู้จัก กระชาย กันก่อน กระชายนั้นมี 3 ประเภท คือ กระชายดำ กระชายแดง และกระชายเหลือง ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงกระชายเหลือง เป็นพืชล้มลุกอยู่ในแถบร้อน มีลักษณะเป็นเหง้าเกิดใต้ดิน และแตกรากขยายออกไปเป็นหน่อจำนวนมากมาย ตรงกลางอวบกว่าส่วนหัวและท้าย มีสีเหลือง และมีกลิ่นหอมมาก นิยมนำมาทำเป็นเครื่องเทศในการปรุงอาหาร และต้านโรค บำรุงกำลัง ตั้งแต่โบราณจนมาถึงปัจจุบัน

สรรพคุณมากมายของกระชายเหลือง

กระชายเหลืองมีสรรพคุณเทียบโสมเกาหลี จนได้รับขนานนามจากวงการแพทย์แผนไทยว่า เป็นโสมไทย เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง บำรุงเอ็นและกระดูกให้แข็งแรง บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ บำรุงตับไต ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศทั้งหญิงและชาย เช่น ในกรณีเพศหญิงที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงเกินไปก็อาจเป็นมะเร็งเต้านมได้ หรือน้อยเกินไปก็อาจเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ กระชายเหลืองจะทำการปรับฮอร์โมนดังกล่าวให้สมดุลนั่นเอง ช่วยปรับความดันโลหิตให้ปกติ สร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้ร่างกาย ห่างไกลไข้หวัดและโรคร้ายต่าง ๆ เหมาะสำหรับผู้ป่วย ผู้สูงวัย และผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

รับประทานกระชายเหลืองอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ในการรับประทานกระชายเหลืองนั้น สามารถนำมาเป็นเครื่องเทศในการปรุงอาหารได้เลย เช่น แกงป่า แกงเลียง น้ำยาป่าขนมจีน แต่ถ้าต้องการให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด นิยมนำมาคั้นน้ำแยกกาก ผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำมะนาว หรือใบโหระพา เพื่อเพิ่มรสชาติและกลิ่นให้ทานง่ายขึ้น และเสริมฤทธิ์กัน ซึ่งควรดื่มน้ำกระชายเป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพผู้ป่วย และบำรุงร่างกายของคนปกติทั่วไป ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

รู้อย่างนี้แล้วเราก็ควรเริ่มหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพตัวเองด้วยกระชายเหลือง โสมไทยที่มีสรรพคุณมากมาย ไม่แพ้โสมชนชาติไหนๆ ที่สำคัญมันหาง่ายในบ้านเรา และราคาไม่แพงเหมือนกับโสมนอก จึงไม่จำเป็นที่คุณจะต้องจ่ายแพงอีกต่อไป

อาหารคลีนคืออะไร ? ทำไมแพงจัง

                ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องของการกินอาหารคลีนกันมาบ้างแล้ว ว่าการกินอาหารคลีนนั้นเป็นอาหารสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลรักษารูปร่างให้สมส่วน สวยงาม และที่สำคัญอาหารคลีนนั้นค่อนข้างมีราคาสูง และถ้าจะทำทานเองที่บ้าน หลาย ๆ คนคงคิดว่าเป็นเรื่องยากและมีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากวุ่นวาย แต่แท้จริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องจ่ายราคาแพงเพื่ออาหารคลีนเลย เพราะเราสามารถทำทานเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน และอาหารไทยหลาย ๆ เมนูก็ยังนับเป็นอาหารคลีนอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักกับอาหารคลีนกันเถอะ

อาหารคลีนคืออะไร ? แล้วแบบไหนเรียกว่าไม่คลีน

อาหารคลีน คืออาหารที่ไม่เน้นการปรุงแต่งรสชาติด้วยสิ่งสังเคราะห์ ถ้าจะปรุงก็จะปรุงด้วยวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ รสชาติไม่จัดจนเกินไป ไม่ใช้การหมักดองในการประกอบอาหาร ไม่ใช่วัตถุดิบที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์ เน้นวัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพ เน้นพวกผักสด ผลไม้สด นิยมใช้เนื้อปลาหรืออกไก่ในการประกอบอาหารเป็นส่วนใหญ่ อาหารคลีนเริ่มเข้ามาแพร่หลายในประเทศไทยในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมานี้เพราะคนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เริ่มมีร้านรับทำอาหารคลีนเป็นเซ็ตอาหารส่งตามบ้าน ทั้งที่ความจริงแล้วเมนูอาหารไทยที่ทำได้เองง่าย ๆ ก็ถือเป็นอาหารคลีนเช่นกัน เช่น แกงส้มผักต่าง ๆ แกงจืด โจ๊ก ผัดผัก และต้มยำ เป็นต้น โดยเนื้อสัตว์ที่ใช้ในการประกอบอาหารก็อาจจะเปลี่ยนจากเนื้อหมูหรือเนื้อวัวเป็นเนื้อปลาหรืออกไก่แทนก็ได้ ส่วนอาหารที่ไม่นับเป็นอาหารคลีน คืออาหารที่มีไขมันทรานส์เป็นส่วนผสม เช่น พวกขนมกรุบกรอบ ขนมเค้ก อาหารจำพวกเบเกอรี่ทั้งหลาย รวมไปถึงอาหารฟาสต์ฟู้ดก็ไม่นับเป็นอาหารคลีน ความจริงแล้วถ้าพิจารณาดี ๆ อาหารไทยพื้นบ้านของเรานี่แหละอาหารคลีนตัวจริง เพราะอาหารไทยพื้นบ้านส่วนใหญ่จะเน้นผักและปลาเป็นหลัก และใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติในการปรุง แถมอร่อยและเราก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วอีกด้วย

ทำไมอาหารคลีนถึงมีราคาแพงจัง ?

                ที่อาหารคลีนมีราคาแพงนั้นเพราะตามร้านส่วนใหญ่จะใช้ผักออร์แกนิคในการประกอบอาหาร และใช้เครื่องปรุงชนิดพิเศษในการปรุงเพื่อควบคุมปริมาณโซเดียม และไขมัน ซึ่งเครื่องปรุงประเภทนี้จะมีราคาสูงกว่าเครื่องปรุงทั่วไป เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ทาน และร้านอาหารส่วนใหญ่มักเลือกใช้ปลาแซลมอนในการประกอบอาหารซึ่งมีราคาสูง ทำให้ราคาของอาหารคลีนนั้นมีราคาสูงตามไปด้วย แต่ในความเป็นจริงหากเราจะปรุงอาหารคลีนทานเองเราไม่จำเป็นต้องใช้ปลาแซลมอนในการประกอบอาหารก็ได้ เพียงแต่ให้เน้นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ ใช้เนื้อปลาที่มีตามท้องถิ่นแทนแซลมอน ปรุงรสไม่ให้จัดจนเกินไป ใช้ผักพื้นบ้าน เน้นการปรุงสุกด้วย การต้ม นึ่ง ปิ้ง อบ ไม่ใส่ผงชูรส และหลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด ๆ มัน ๆ เพียงเท่านี้เราก็สามารถทำอาหารคลีนรับประทานได้แบบประหยัดงบประมาณ และสามารถทำได้ทุกมื้อโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินซื้อวัตถุดิบแพง ๆ อีกด้วย และในความเป็นจริงเราไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องปรุงรสชนิดพิเศษที่มีราคาสูงกว่าเครื่องปรุงปกติก็ได้ แต่เราปรุงรสไม่ให้จัดจนเกินไป ปรุงรสให้พอดี ๆ ไม่หนักเค็มหรือหนักหวานเกินไปก็สามารทำให้เราประหยัดเงินในการซื้อวัตถุดิบแพง ๆ ไปได้อีกทางหนึ่งด้วย

มะพร้าว Tree of life สายใยประเพณีของคนไทย

มะพร้าวเป็นพืชยืนต้น มีอายุยืนยาวนับร้อยปี ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาอย่างยาวนานเรียกได้ว่า เชื่อมโยงกับประเพณีและวิถีชีวิตของคนมาตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตายเลยทีเดียว อาจเป็นเพราะมนุษย์ค้นพบว่ามะพร้าวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ตั้งรากไปจนถึงปลายยอด และเชื่อว่าอีกหลายประเทศที่ปลูกมะพร้าวในเชิงเศรษฐกิจ ได้แก่ อินเดีย บังกลาเทศ ศรีลังกา เวียดนาม กัมพูชา อินโดฯ มาเลเซีย เมียนมาร์ ต่างก็ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของมะพร้าวไม่ต่างจากเราคนไทย

ประโยชน์จากรากจนถึงปลายยอด

น้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งจำเป็นต่อเพศหญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยหมดประจำเดือน ที่ต้องการเพื่อปรับสมดุลร่างกาย นอกจากนี้น้ำมะพร้าวยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม และมีคุณสมบัติปลอดเชื้อโรค จึงถูกนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการขาดน้ำ และรักษาโรคผิวหนัง

นอกจากการรับประทานน้ำและเนื้อมะพร้าวอ่อนแล้ว มะพร้าวยังถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องดื่มบำรุงร่างกาย วุ้นน้ำมะพร้าว น้ำส้มสายชู กะทิ และน้ำมันมะพร้าวไปโอดีเซล ส่วนยอดอ่อนของมะพร้าว คนโบราณนิยมนำไปแกงกะทิ แกงส้ม แกงคั่ว ส้มตำและยำชนิดต่าง ๆ

กะลามะพร้าว ก็ถูกนำไปทำสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เช่น โคมไฟ กระดุม กระเป๋า ซออู้ ฯลฯ ใบมะพร้าวนำไปแปรรูปเป็นงานหัตถกรรมจักรสาน ตะกร้า ชะลอม กระจาด และใช้ห่อขนม ส่วนก้านใบก็ถูกนำมาดัดแปลงทำเป็นไม้กวาดทางมะพร้าว เส้นใยถูกนำไปต่อยอดในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์

นอกจากนี้ส่วนที่คนมองข้ามไปอย่างรกมะพร้าวก็สามารถนำมาเป็นองค์ประกอบในการทำงานศิลปะ ของชำร่วย ฯลฯ สร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี ส่วนลำต้นที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ก็จะถูกโค่นทิ้งและขายทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ทำรั้ว ผนัง และกระถางต้นไม้ตกแต่งบ้านให้สวยงามอยู่เสมอ

มะพร้าวกับความเชื่อและประเพณี

มะพร้าวมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอินเดีย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มะพร้าวได้รับการยกย่องและมีส่วนสำคัญในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น การเกิด การตาย และพิธีแต่งงาน ส่วนในประเทศไทย มีความเชื่อเรื่องการดื่มน้ำมะพร้าวในหญิงตั้งครรภ์ เพื่อบำรุงทั้งแม่และเด็กให้มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ผิวพรรณสวยงาม และนอกจากจะนำมะพร้าวมาทำอาหาร คาวหวาน ยารักษาโรคและสิ่งประดิษฐ์ในชีวิตประจำวันแล้ว มะพร้าวก็ยังเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะประเพณีการทำขวัญทารกแรกเกิด

อย่างไรก็ตาม กระบวนการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันได้คิดค้นสูตรน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เพื่อเป็นทางเลือกในการบำรุงร่างกาย และประโยชน์ใช้สอยในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยมีคุณสมบัติที่เป็นธาตุเย็น ช่วยดูดซับและขับของเสียออกจากร่างกาย มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบ จึงทำให้ผู้นิยมดื่มน้ำมะพร้าวมีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งสดใส อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามินบี เหล็ก โพแทสเซียม โซเดียม แคลเซียม น้ำตาลกลูโคส (ที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว) และกรดอะมิโนจำเป็นซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย  มะพร้าวจึงไม่ได้เป็นเพียงพืชเศรษฐกิจ แต่มะพร้าวยังเป็นวิถีชีวิตและลมหายใจของมวลมนุษยชาติอีกด้วย

เมนูไข่ สารพัดประโยชน์ ถูกและดีมีที่ไข่นี่เอง

แม่ไก่ออกไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง… เห็นเมนูไข่ทีไร อดนึกถึงเพลงที่ขับร้องกันอย่างสนุกสนานของเด็กอนุบาลไม่ได้ ทำให้ย้อนคิดไปถึงกุศโลบายของคนโบราณ และการประยุกต์ใช้คำสอน และความรู้เรื่องไข่สอดแทรกอยู่ในวิถีชีวิตของคนเราตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ เรียกได้ว่าโตมากับไข่สารพัดเมนูเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น ไข่ต้ม ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ตุ๋น ไข่ลูกเขย ไข่พะโล้ และต้มจืดไข่น้ำ เป็นต้น คุณค่าสารพัดประโยชน์ของไข่ อุดมไปด้วยโปรตีนและสารอาหารต่าง ๆ มากมาย แถมยังมีราคาที่ถูกมาก ๆ เมื่อเทียบกับประโยชน์ของมัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย พร้อมที่จะลุยงานหนักและเริ่มต้นกับบทเรียนในตอนเช้าอย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของไข่

ประการแรกคือ ไข่มีทั้งโปรตีน สังกะสี วิตามิน A, D ,E ,และ B 12 นอกจากนี้ยังให้พลังงานเพียง 85 กิโลแคลอรี่ต่อฟองเท่านั้น

ประการที่สอง คือ ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโรค ด้วยธาตุเหล็กที่มีอยู่ในไข่ จะช่วยให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือกแดงอย่างมีประสิทธิภาพ

ประการที่สาม คือ ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทให้แข็งแรง เพราะโคลีนที่มีอยู่ในไข่มากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ต่อฟองเลยทีเดียว ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย

ประการที่สี่ คือ สารแคโรทีนที่มีอยู่ในไข่ จะช่วยป้องกันร่างกายจากสารอนุมูลอิสระ และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้

ประการที่ ห้า คือ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อกระจกในผู้สูงอายุ เพราะว่ามีสารต้นอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยป้องกันดวงตาจากอันตรายของรังสียูวี

ประการที่ หก คือ วิตามินในไข่จะช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบสมอง ส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำ ซึ่งการรับประทานไข่ในตอนเช้าจะช่วยให้สามารถจดจำและเรียนรู้เรื่องราวต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน

ประการที่ เจ็ด คือ ไข่มีราคาไม่แพง และยังช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าอาหารที่มีส่วนผสมของแป้งและน้ำตาล

กินไข่ อย่างไรให้พอดี

ในแต่วันคนเราควรจะรับคอเรสเตอรอล ไม่เกิน 300 มิลลิกรัม ซึ่งในไข่ 1 ใบนั้นมีคอเรสเตอรอลสูงถึง 250 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทางการแพทย์ ให้คำแนะนำในการบริโภคไข่วันละฟอง หรือ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์ ซึ่งปริมาณที่เพียงพอสำหรับความต้องการของร่างกาย และแม้ว่าอาหารจานไข่จะมีประโยชน์มากมายเพียงใด แต่คนเราก็ควรที่จะรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อการเจริญเติบโตอย่างสมวัย  และสำหรับการรับประทานไข่ต้มในตอนเช้า ควรที่จะดื่มน้ำส้มคั้นควบคู่กันไป ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารจากไข่ได้ดีมากยิ่งขึ้น

กินสลัด…ทุกวันดีต่อสุขภาพจริงใช่ไหม

ผักและผลไม้ ได้ยินชื่อก็รู้ว่าอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ยิ่งนำมาทำสลัดรับประทานเพื่อสุขภาพก็ย่อมเป็นเรื่องที่ดี แต่สำหรับบางคนที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ก็นิยมที่จะรับประทานสลัดผักและผลไม้เป็นมื้อหลัก หรือแทบจะรับประทานแทนข้าวเลยก็ว่าได้ แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ การรับประทานอะไรที่มากเกินไป โดยขาดการพิจารณาก็อาจนำมาซึ่งผลเสียต่อร่างกายของคนเราได้ ดังนั้นเราควรรู้ว่าจะรับประทานสลัดเวลาไหนในปริมาณเท่าใด เพื่อให้ร่างกายได้รับคุณค่าสารอาหารอย่างครบถ้วน

กินสลัดเวลาไหนดีที่สุด

หลายคนมั่นใจว่า การรับประทานสลัดจะไม่ทำให้อ้วน แต่อาจลืมไปว่าส่วนประกอบที่เราใส่ลงไปในสลัดนั่นล่ะคือตัวแปรสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณของเนื้อสัตว์ ไขมัน และน้ำสลัดครีมนานาชนิด บางคนจึงระมัดระวังและรับประทานเพียงผัดสดและผลไม้หรือน้ำสลัดใสเท่านั้น แต่ผลที่ตามมา น้ำหนักอาจจะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าใบหน้าจะเหี่ยวย่น และเนื้อเหลว ทั้งนี้เพราะร่างกายยังต้องการโปรตีนเข้าไปช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงาน ดังนั้นการเลือกรับประทานสลัด ควรเพิ่มโปรตีนจากพืช หรือเนื้อสัตว์ที่ปราศจากไขมัน ขนมปังโฮลวีท หรือธัญพืช โดยปกติแล้วมื้อเช้าจะเป็นมื้อสำคัญที่ต้องรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ส่วนมื้อกลางวันนั้น เราลดแป้งลงครึ่งหนึ่งของอาหาร เพื่อลดพลังงานสะสม ส่วนมื้อเย็นเน้นกินสลัดผัก ผลไม้และโปรตีนบ้าง ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี

ข้อควรระวังในการกินสลัด

            เวลาไปทานบุฟเฟ่ต์หรือสลัดบาร์ เราเคยสังเกตไหมว่าคนอื่น ๆ หรือแม้แต่เราเองเลือกตักผักชนิดไหน หรือตักอะไรก่อน เพราะบางครั้งสีสันของผักและเครื่องเคียงต่าง ๆ ก็ดูละลานตาจนเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว แต่เอาเป็นว่าเราควรเลือกผักใบเขียวก่อน เพราะเป็นผักที่มีเส้นใยสูงแต่ให้พลังงานน้อย แล้วจึงค่อยเลือกตักผักสีต่าง ๆ เช่น มะเขือเทศ แครอท ฟักทอง ถั่วพริกหวาน ข้าวโพด เผือก ฯลฯ ตามชอบใจ และที่สำคัญควรตักผักให้ครบ 5 สี เพื่อให้ให้ได้วิตามินและแร่ธาตุครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ นอกจากนี้ควรเลือกน้ำสลัดที่ให้พลังงานน้อย และตักราดแต่พอประมาณ เติมโปรตีนลงไปอีกนิดเพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ซึ่งโปรตีนที่เหมาะสมได้แก่ โปรตีนจากถั่ว ไข่ และปลานั่นเอง

อย่างไรก็ตามการรับประทานอาหารเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ เป็นเรื่องดี แต่เราควรที่จะระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารแบบเดิมซ้ำ ๆ เป็นประจำทุกวัน แม้ว่าอาหารนั้นจะมีประโยชน์มากเท่าใดก็ตามโดยเฉพาะสลัด เพราะนั่นจะเป็นวิธีการทำลายร่างกายในแบบที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

สมุนไพรพื้นบ้าน ภูมิปัญญาไทย  

แม้ยุคสมัยจะแปรเปลี่ยนไป แต่อาหารยังคงเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิต การรับประทานอาหารจึงเป็นมากกว่าที่หลายคนคิด อาหารพื้นบ้านที่ประกอบด้วยพืชผักสมุนไพร คือภูมิปัญญาของคนสมัยโบราณ ที่แสดงให้เห็นถึงประโยชน์และสรรพคุณทางยาของพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ ซึ่งคนสมัยโบราณนำมาปรุงแต่งจัดเรียงเป็นสำรับอาหารที่สวยงาม เลิศรสและอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ เรียกได้ว่าสำรับอาหารไทยรวมเอาทั้งศาสตร์และศิลป์มาอยู่ในวิถีการกินของคนเราอย่างแยบยล  นอกจากจะช่วยให้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง เบิกบาน แล้วยังช่วยยืดอายุของผู้รับประทานไปได้อีกยาวไกล

กินอาหารเป็นยา ดีกว่ากินยาเป็นอาหาร

ปัจจุบันวงการแพทย์ได้ให้ความสนใจในสรรพคุณของพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านของไทยหลายชนิด โดยมีการค้นคว้าวิจัยมากมายเกี่ยวกับ ประโยชน์ของสมุนไพรไทยและผักพื้นบ้าน ที่เรานิยมนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ยกตัวอย่าง เช่น น้ำพริกกะปิแกล้มด้วยผักสด และเครื่องเทศ สมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบหลักในเครื่องแกงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แกงเผ็ด แกงส้ม ต้มยำ เป็นต้น ซึ่งวัตถุดิบหลัก ที่เป็นพระเอกชั้นแนวหน้าของครัวไทยคงหนีไม่พ้น กระเทียม

กระเทียมมีสรรพคุณมากมาย เป็นเหตุให้กระเทียมเป็นสมุนไพรทางเลือกในบำบัด รักษาและส่งเสริมสุขภาพ  ซึ่งงานวิจัยทางการแพทย์พบว่า กระเทียมมีสรรพคุณ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด รักษาโรคความดันโลหิตสูง ปรับสมดุลในร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคมะเร็ง เพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ ข้อต่อ กระดูก และสรรพคุณอื่น ๆ อีกรวม 49 ประการ พร้อมด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีการรับรองอย่างเป็นทางการ แต่ความเชื่อและศาสตร์ในสมุนไพรทางเลือกชนิดนี้ได้แพร่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก นำมาซึ่งกระบวนการคิด “กินอาหารเป็นยา ยังดีกว่ากินยาเป็นอาหาร”

อาหารเพื่อสุขภาพและความงาม

ขณะที่เทรนอาหารแฟชั่นที่กำลังมาแรง การดูแลสุขภาพวิถีไทยโดยการนำพืชผักสมุนไพรพื้นบ้าน ก็ได้ถูกนำมาต่อยอดเพิ่มมูลค่า ในเมนูอาหารต่าง ๆ อย่างมากมาย เช่น อาหารคลีน และอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัย ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคในการรับประทานอาหารโดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 อาหารประเภทโปรตีน ซึ่งเหมาะที่จะรับประทานในมื้อเช้า เพื่อใช้เป็นพลังงานในชีวิตประจำวัน ส่วนโปรตีนที่รับประทานในมื้อเย็นนั้น ควรเป็นโปรตีนจากพืช เช่น ธัญพืช ถั่วเหลือง เต้าหู้ และเวย์โปรตีน ต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย  กระตุ้นโกรทฮอร์โมนให้ทำหน้าที่ซ่อมแซมร่างกายให้ฟื้นคืนสู่สภาพปกติ

กลุ่มที่ 2 ได้แก่ น้ำเปล่า  ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญ 90 เปอร์เซ็นต์ของร่ายกาย ซึ่งเราควรดื่มน้ำเปล่าไม่ต่ำกว่า 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อฟื้นฟูเซลล์ให้แข็งแรงไม่เกิดริ้วรอยได้ง่าย

กลุ่มที่ 3 ได้แก่ วิตามิน A C และ E  หรือ โคเอนไซด์คิวเทน ที่ช่วยกระตุ้นให้ไมโทคอนเดรีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ในร่างกายทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นเราจึงไม่อาจมองข้ามภูมิปัญญาเรื่องอาหารและการดูแลสุขภาพแบบวิถีไทย คุณค่าของพืชผักสมุนไพรใกล้ตัว ที่อยู่คู่ครัวไทยมานานแสนนาน  เหล่านี้เองคือเคล็ดลับที่ช่วยสร้างสมดุลชีวิต ทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยให้คนเรามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์สมวัย ได้อีกนานเลยทีเดียว