ห่างไกลโรคเบาหวานด้วย อบเชย สุดยอดสมุนไพร ที่ธรรมชาติมอบให้เรา

ธรรมชาติย่อมมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เราเสมอ จะเห็นจากสมุนไพรไทยต่าง ๆ มากมายที่สารพัดประโยชน์ อาทิเช่น ว่านหางจระเข้ ขมิ้นชัน รางจืด กระชาย เป็นต้น ซึ่งได้มีการค้นคว้าวิจัยนำมาทำเป็นอาหารเสริม ยารักษาโรค ในการต้านและรักษาโรค บำรุงร่างกาย รวมถึงเครื่องประทินผิวต่าง ๆ ก็นิยมนำสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติมาใช้กันทั้งนั้น นอกจากนี้ยังนำมาปรุงอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติ และคุณค่าทางโภชนาการได้อีกมากมาย และสุดยอดสมุนไพรอีกตัวที่เราจะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือ อบเชย ซึ่งเราจะนำเปลือกไม้ชั้นในของต้นอบเชยที่แห้งแล้วมาใช้ ซึ่งมีสีน้ำตาลแดง มีกลิ่นหอมมาก ซึ่งนอกจากจะนิยมนำไปทำเป็นเครื่องเทศในการปรุงอาหาร เช่น แกงพะโล้ ผัดผงกะหรี่ กันแล้ว สรรพคุณของอบเชยยังมีอีกมากมาย รวมถึงการช่วยให้ห่างไกลจากโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นโรคที่ร้ายแรงอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว และข้อมูลที่ว่านี้มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

อบเชยกับสรรพคุณที่มากมาย

ในประเทศไทยนอกจากนิยมนำอบเชยมาปรุงอาหารแล้ว ยังนำมาเป็นส่วนผสมในยาแผนโบราณต่าง ๆ เช่น หอมที่ใช้ชงดื่ม ที่มีสรรพคุณในการ แก้โรคท้องร่วง แก้จุกเสียด แน่นเฟ้อ เพราะมีสารช่วยต้านแบคทีเรียในกระเพาะอาหารและลำไส้ นอกจากนี้ยังมีสารแทนนินสูง จึงนิยมนำมาทำยานัตถุ์ ที่ใช้สูดดม เพื่อให้หายใจคล่องและสดชื่นขึ้น บางรายนิยมนำอบเชยมาใส่ในอาหารเสริม หรือกาแฟ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและประโยชน์ให้มากขึ้น

โรคเบาหวานคืออะไร

ก่อนอื่นเราต้องพาคุณไปทำความรู้จักกับโรคเบาหวานกันก่อนว่ามันคือ โรคที่เกิดจากน้ำตาลสะสมในเลือดมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในการผลิตอินซูลินบกพร่อง จนสูญเสียความสามารถในการนำอินซูลินไปใช้นั่นเอง ซึ่งอาจติดกันได้ทางพันธุ์กรรม คือ คนในครอบครัวเคยมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งอาการของคนที่เป็นโรคเบาหวานนั้น มักจะหิวน้ำและอาหารบ่อย ปัสสาวะบ่อยเป็นฟอง ปวดหัว หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ ตาพร่ามัว อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ตัวบวมน้ำ ทั้งมือ เท้า และใบหน้า เหล่านี้เป็นต้น ดังนั้นใครที่มีอาการเหล่านี้ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยโรคและทำการรักษาต่อไป

อบเชยช่วยให้ห่างไกลโรคเบาหวาน

อ.สุธิวัสภ์ คำภา นักธรรมชาติบำบัดที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้กล่าวไว้ว่า อบเชยสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลและคอเรสเตอรอลในเลือดได้ ช่วยฟื้นฟูคนป่วยที่เป็นโรคเบาหวานให้หายขาด เพราะอบเชยมีสาร Methylhydroxy chalcone polymer (Mhcp) ที่มีฤทธิ์เหมือนกับอินซูลิน จึงทำให้กระบวนการนำอินซูลินไปใช้ในร่างกายเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในอบเชยยังมีสารช่วยลดไตรกลีเซอร์ไรด์ในร่างกายได้อีกด้วย เพราะคนที่มีไตรกลีเซอร์ไรด์ในร่างกายสูง ก็จะมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ อย่างโรค เบาหวาน นั่นเอง

เห็นไหมว่า สรรพคุณของ อบเชย น่าทึ่งขนาดไหน เป็นสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้เรา หากใครที่คิดว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน เช่น คนที่ชอบทานของหวาน หรือคนที่มีคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน ก็สามารถทานอบเชยเสียตั้งแต่วันนี้ โดยการนำแท่งอบเชยมาต้มน้ำดื่ม หรือจะทานแบบแคปซูลง่าย ๆ ก็ได้ ช่วยให้ห่างไกลโรคเบาหวาน และมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง อายุยืนยาวต่อไป

สมุนไพรพื้นบ้าน ภูมิปัญญาไทย  

แม้ยุคสมัยจะแปรเปลี่ยนไป แต่อาหารยังคงเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิต การรับประทานอาหารจึงเป็นมากกว่าที่หลายคนคิด อาหารพื้นบ้านที่ประกอบด้วยพืชผักสมุนไพร คือภูมิปัญญาของคนสมัยโบราณ ที่แสดงให้เห็นถึงประโยชน์และสรรพคุณทางยาของพืชผักสวนครัวรั้วกินได้ ซึ่งคนสมัยโบราณนำมาปรุงแต่งจัดเรียงเป็นสำรับอาหารที่สวยงาม เลิศรสและอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ เรียกได้ว่าสำรับอาหารไทยรวมเอาทั้งศาสตร์และศิลป์มาอยู่ในวิถีการกินของคนเราอย่างแยบยล  นอกจากจะช่วยให้มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง เบิกบาน แล้วยังช่วยยืดอายุของผู้รับประทานไปได้อีกยาวไกล

กินอาหารเป็นยา ดีกว่ากินยาเป็นอาหาร

ปัจจุบันวงการแพทย์ได้ให้ความสนใจในสรรพคุณของพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านของไทยหลายชนิด โดยมีการค้นคว้าวิจัยมากมายเกี่ยวกับ ประโยชน์ของสมุนไพรไทยและผักพื้นบ้าน ที่เรานิยมนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ยกตัวอย่าง เช่น น้ำพริกกะปิแกล้มด้วยผักสด และเครื่องเทศ สมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบหลักในเครื่องแกงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แกงเผ็ด แกงส้ม ต้มยำ เป็นต้น ซึ่งวัตถุดิบหลัก ที่เป็นพระเอกชั้นแนวหน้าของครัวไทยคงหนีไม่พ้น กระเทียม

กระเทียมมีสรรพคุณมากมาย เป็นเหตุให้กระเทียมเป็นสมุนไพรทางเลือกในบำบัด รักษาและส่งเสริมสุขภาพ  ซึ่งงานวิจัยทางการแพทย์พบว่า กระเทียมมีสรรพคุณ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด รักษาโรคความดันโลหิตสูง ปรับสมดุลในร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคมะเร็ง เพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ ข้อต่อ กระดูก และสรรพคุณอื่น ๆ อีกรวม 49 ประการ พร้อมด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่ครบถ้วน แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีการรับรองอย่างเป็นทางการ แต่ความเชื่อและศาสตร์ในสมุนไพรทางเลือกชนิดนี้ได้แพร่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก นำมาซึ่งกระบวนการคิด “กินอาหารเป็นยา ยังดีกว่ากินยาเป็นอาหาร”

อาหารเพื่อสุขภาพและความงาม

ขณะที่เทรนอาหารแฟชั่นที่กำลังมาแรง การดูแลสุขภาพวิถีไทยโดยการนำพืชผักสมุนไพรพื้นบ้าน ก็ได้ถูกนำมาต่อยอดเพิ่มมูลค่า ในเมนูอาหารต่าง ๆ อย่างมากมาย เช่น อาหารคลีน และอาหารเพื่อสุขภาพที่ช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัย ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคในการรับประทานอาหารโดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 อาหารประเภทโปรตีน ซึ่งเหมาะที่จะรับประทานในมื้อเช้า เพื่อใช้เป็นพลังงานในชีวิตประจำวัน ส่วนโปรตีนที่รับประทานในมื้อเย็นนั้น ควรเป็นโปรตีนจากพืช เช่น ธัญพืช ถั่วเหลือง เต้าหู้ และเวย์โปรตีน ต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย  กระตุ้นโกรทฮอร์โมนให้ทำหน้าที่ซ่อมแซมร่างกายให้ฟื้นคืนสู่สภาพปกติ

กลุ่มที่ 2 ได้แก่ น้ำเปล่า  ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญ 90 เปอร์เซ็นต์ของร่ายกาย ซึ่งเราควรดื่มน้ำเปล่าไม่ต่ำกว่า 2-3 ลิตรต่อวัน เพื่อฟื้นฟูเซลล์ให้แข็งแรงไม่เกิดริ้วรอยได้ง่าย

กลุ่มที่ 3 ได้แก่ วิตามิน A C และ E  หรือ โคเอนไซด์คิวเทน ที่ช่วยกระตุ้นให้ไมโทคอนเดรีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ในร่างกายทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นเราจึงไม่อาจมองข้ามภูมิปัญญาเรื่องอาหารและการดูแลสุขภาพแบบวิถีไทย คุณค่าของพืชผักสมุนไพรใกล้ตัว ที่อยู่คู่ครัวไทยมานานแสนนาน  เหล่านี้เองคือเคล็ดลับที่ช่วยสร้างสมดุลชีวิต ทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยให้คนเรามีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์สมวัย ได้อีกนานเลยทีเดียว